เรื่องจากในความฝันนั้นมี่อยู่ว่า มีเพื่อนมาทักให้เราไปหารองเท้าที่มันใส่สบายๆ ในความฝันเรยชวนน้องเวร เฮ้ยยยย!!! ไม่ใช่คะ ชวนน้องชายให้พาไปเดินหาซื้อรองเท้า (นี่ละน๊าาา ก็ดันชวนใครไม่ชวน อิอิ) พอเดินไปเดินมาก็เจอรองเท้าที่ถูกใจอยู่ร้านหนึ่ง ซึ่งคนขายเป็นคุณยายแก่ๆ มีอายุค่อนข้างมากแล้ว คุณยายแกเฝ้าร้านอยู่กับหลานสาวสวยโตเต็มวัย และพร้อมกับแนะนำรองเท้าคู่ที่ถูกใจให้ ราคาประมาณหลักร้อยบาท (ดีจังเล้ยยย++ รองเท้าโคตรถูก)
เมื่อต่อมความโลภเข้ามากระตุ้น ดวงตาโตกลมลุกวาว เห็นรองเท้าถูกใจ+ราคาโดนๆ จะรอช้าอยู่ใยเรยตัดสินใจเข้าครอบครองด้วยการควักกระเป๋าแบงค์สีม่วงจ่ายไป 500 บาท (เดี๋ยวก่อนนะคะ คอหวยทั้งหลาย นี่ไม่ใช่เป็นการบอกตัวเลขเด็ดแต่อย่างใด ห้ามเอาไปแทง บน-ล่าง อย่างเด็ดขาด !!!)
ประเด็นสำคัญที่เป็นเรื่องก็คือ คุณยายแกคะ ฮ่าๆๆ แกกลับทอนเป็นเหรียญล้วนๆ แล้วไม่ใช่มีแค่เหรียญธรรมดา มีทั้งเหรียญปกติปัจจุบัน ย้อนไปถึงเหรียญเก่าสมัยโบราณในอดีต นอกจากนี้ยังมีเหรียญประเภทที่ต้องเอาไปขึ้นตาชั่ง เพื่อชั่งน้ำหนักแล้ววัดมูลค่า (ห๊ะ!!! นี่เราฝันบ้าอะไร ในโลกความจริงมันไม่มี) มองไปรอบๆ มีความรู้สึกว่าลูกค้าคนอื่นๆ ก็ไม่พอใจที่โดนทอนเงินเป็นเหรียญเหมือนกับเรา แต่เค้ากลับก้มหน้าก้มตารับเงินทอนและจากไปแต่โดยดี เนื่องอาจจะด้วยเหตุผลเช่น ขี้เกียจเป็นเรื่อง ขี้เกียจนับเหรียญกองบลาๆ นั่น ฯลฯ
ภายในใจเราไม่รู้นึกคิดอะไรอยู่ ถึงมีความรู้สึกว่า เอ๊ะ!! คุณยายอาจจะตั้งใจโกงลูกค้าหรือเปล่าถึงทำเช่นนี้ (ได้เรย เดี๋ยวยายเจอคนจริงแน่ 555+) เรยตัดสินใจยิ้มคะ ^^____^^ นิ่งๆ เงียบๆ แล้วรับเหรียญมา แต่... ไม่เดินจากไปเหมือนคนอื่นๆ นับคะ ฮ่าๆๆๆ ในเมื่อเล่นทอนมาแบบนี้ ก็ยืนนับมันแบบนี้แหละ นับมันทุกอย่าง ตรงในร้านนั่นเรย ช่วยกันนับกับน้องชาย ให้น้องชายมันช่วยนับ นับเหรียญไปนับเหรียญมา ชักลืมและมึนงงอยู่พักใหญ่ เหลือบไปเห็นคุณยายก็มีสีหน้าเหมือนจะค้อนนิดหนึ่งประมาณว่า จะนับเรื่องมากอารัยนักหนา รีบๆ รับๆ เงินทอนไปก็สิ้นเรื่องไปตั้งนานแล้ว
สุดท้ายเรยตัดสินใจแก้เผ็ดคุณยาย ด้วยการพูดว่า "ยายช่วยนับเงินทอนให้ทีคะ" ได้ผล !!!! คุณยายแกนับคนเดียวอยู่นานมาก หลานสาวคุณยายนั่งมองดูอยู่ข้างๆ สุดท้ายหลานสาวทนไม่ไหว คงจะรู้สึกสงสารยายตัวเองมาก เรยเดินไปหยิบเงินทอนที่เป็นแบงค์และเหรียญทอนตามปกติมาให้...
ยอมเสียสละเวลาหน่อย สำหรับการทวงความยุติธรรมและความถูกต้องตามที่มันควรจะเป็น ขอหยิบยืมเรื่องราวคำสอนของท่าน ว.วชิรเมธี มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต การที่เราเจอคนอื่นเอารัดเปรียบแล้วเรานิ่งเฉย ยอมก้มหน้าก้มตาให้เค้าเอาเปรียบเราไปเรื่อย สุดท้ายก็บอกว่า ช่างมันเถอะ !! มันคงเป็นเพราะกรรมเก่า ส่วนตัวเราคิดว่า ความคิดแบบนี้มันไม่ถูกต้องเสมอไปคะ เราควรใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหา โดยตั้งอยู่บนความถูกต้อง ไม่คิดเอาเปรียบใคร และก็เช่นเดียวกัน อย่ายอมให้ใครมาเอาเปรียบเรา...
